วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2553

ภาวะโลกร้อนคืออะไร


คือภาวะที่ผื้นผิวโลกที่มีอุณภูมิสูงขึ้นเนื่องจากการที่ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซอื่น ๆ กักเก็บความร้อนจากแสงอาทิตย์เอาไว้ในชั้นบรรยากาศ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดี เพราะทำให้ดวงดาวของเรามีสภาพที่เอื้ออำนวยต่อความอยู่รอดของสิ่งมีชีวิต แต่อย่างไรก็ตาม จากการเผาเชื้อเพลิงอย่างเช่น ถ่านหิน ก๊าซ และน้ำมัน ตลอดจนถึงการตัดไม้ทำลายป่า จึงส่งผลให้ปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในชั้นบรรยากาศโลกเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ เช่นเดียวกับระดับอุณหภูมิที่กำลังสูงขึ้น
ขณะนี้นักวิทยาศาสตร์เห็นพ้องต้องกันว่าภาวะโลกร้อนที่พูดถึงนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง และได้เกิดขึ้นแล้ว และมันได้ส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตของเราและความผิดปกติของธรรมชาติ ซึ่งหลักฐานที่ได้ค้นพบนั้นมีอยู่มากมายและชัดเจนจนยากที่จะปฏิเสธ
เราได้พบเห็นการเปลี่ยนแปลงไปบ้างแล้ว เช่น ธารน้ำแข็งกำลังละลาย พืชและสัตว์ต่าง ๆ กำลังถูก

ผลักดันให้ต้องอพยพออกจากถิ่นฐานเดิมของมัน และปริมาณพายุที่มีความรุนแรงก็มีให้เห็นเพิ่มขึ้น
เช่นเดียวกับความแห้งแล้ง

พายุเฮอร์ริเคนที่มีความรุนแรงระดับ 4 ถึง 5
มีจำนวนเพิ่มขึ้นสองเท่าตลอดระยะเวลา 30 ปีที่ผ่านมา

โรคไข้มาลาเรียสามารถระบาดได้ในเขตพื้นที่ที่มีระดับสูงขึ้น อย่างเช่นในบริเวณเทือกเขา Colombian Andes ที่มีความสูงอยู่ในระดับ 7,000 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล

กระแสธารน้ำแข็งในเขตกรีนแลนด์
มีปริมาณเพิ่มขึ้นสองเท่าในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา

พืชและสัตว์ไม่ต่ำกว่า 279 สปีชีส์ ได้มีการตอบสนองต่อภาวะโลกร้อนเห็นได้จากการพยายามย้ายถิ่นฐานเข้าใกล้ขั้วโลกมากขึ้น

และถ้าระดับความร้อนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราคงจะได้เห็นสิ่งเลวร้ายที่จะตามมาคือ

อัตราการเสียชีวิตอันเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน
จะมีปริมาณเพิ่มขึ้นสองเท่าภายในระยะเวลา 25 ปี คือ

300,000 คนต่อปี

ระดับน้ำทะเลจะสูงขึ้นมากกว่า 20 ฟุต จากการละลาย

หายไปของพื้นน้ำแข็งในเขตกรีนแลนด์และแอนตาร์ค

ติกา ซึ่งจะกลืนกินพื้นที่ชายฝั่งทั่วโลก

คลื่นความร้อนจะเกิดบ่อยขึ้นและมีความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม

ความแห้งแล้งและการเกิดไฟป่าจะมีมากขึ้น

มหาสมุทรอาร์คติกจะปราศจากน้ำแข็งหลงเหลือ ในฤดู

ร้อนของปี ค.ศ.2050

สิ่งมีชีวิตทั่วโลกมากกว่าหนึ่งล้านสปีชี่ส์จะสูญพันธุ์ภายใน

ปี ค.ศ.2050

0 ความคิดเห็น:

  © Free Blogger Templates 'Greenery' by Ourblogtemplates.com 2008

Back to TOP